เวลาพูดถึงรูปแบบธุรกิจแบบ Sharing economy และ Venture capital หรือธุรกิจที่นำเงินไปลงทุนถือหุ้นในบริษัทอื่นๆ คงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่พูดถึงชื่อของ Masayoshi Son ซึ่งเป็นชื่อที่โด่งดังมากใน 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ครับ อันดับแรกผมอยากชวนทุกคนคุยถึงคุณ Masayoshi Son กันก่อน

 

Masayoshi Son เป็นใคร?

เขาเป็นเจ้าของ Softbank ซึ่งเป็น บ.ด้านโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่น ซึ่งนอกจากเรื่องคมนาคมแล้ว Softbank ยังทำธุรกิจด้านการลงทุนต่างๆด้วย ซึ่งสิ่งที่ทำให้ชื่อของ Son ออกมาเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขางในช่วง 2-3 ปีหลัง ก็คือ การตั้งกองทุนที่ลงทุนในธุรกิจ startup และ technology ที่ระดมทุนมาได้จากผู้คนและบริษัทในวงการเทคโนโลยีทั่วโลก เช่น เจ้าชายจาก Saudi Arabia, Apple, Foxxcon, Qualcom และอื่นๆรวมๆมูลค่ากว่าแสนล้าน USD ที่ชื่อว่า vision fund นั่นเอง

 

ซึ่งตัว Vision fund ลงทุนในอะไรบ้าง? 

ปัจจุบันมีบริษัทที่ active ใน portfolio ของ vision fund อยู่ที่ 88 บริษัท เอาดังๆเลยคือ Alibaba e-commerce ชื่อดัง, Bytedance ที่ทำ app Tiktok ที่ทำให้พวกเราหลายคนค้นพบวิญญาณนักเต้นในตัวกันในช่วง Covid-19 นี้ 

และแน่นอนว่ากลุ่มธุรกิจหลักๆใน port ของ vision fund เลยคือธุรกิจในกลุ่ม sharing economy ต่างๆทั่วโลก เช่นด้าน ride-haling ก็จะมีทั้ง Uber Grab Didi, ถ้าเป็นด้านโรงแรมก็ OYO ของอินเดีย และที่ค่อนข้างฉาวโฉ่หน่อยในช่วงที่ผ่านๆมา ก็คือการลงทุนใน wework, startup ที่ไปเช่าที่ แล้วปล่อยให้คนมาเช่าแชร์ที่กันทำงานเป็น co-working space, co-office space นั่นเอง 

ซึ่ง Son ออกมาพูดด้วยตัวเองเลยว่า

wework เป็นหนึ่งในความผิดพลาดในการลงทุนของเขาเลย

 

จุดเปลี่ยนจาก COVID-19 

จริงๆในช่วงปี 2019 ที่ผ่านมา ถ้าเราผลประกอบการธุรกิจของ Softbank group ทั้งหมด ตัว Vision fund นี้เองกลายมาเป็นกลุ่มธุรกิจที่สร้างกำไรในการดำเนินการ (operation profit) ให้บริษัทมากที่สุดแซงธุรกิจเดิมๆของ Softbank ไปเลยครับ ซึ่งจริงๆก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ

 

จนกระทั่งทุกอย่างเปลี่ยนไปหลังจากที่ Covid-19 เข้ามาครับ ล่าสุดในช่วงเดือน พ.ค. 2020 ที่ผ่านมา Vision fund ได้รายงานออกมาว่าพวกเขาขาดทุนอย่างมหาศาลกว่า 17,000 ล้านบาทเลยทีเดียวครับ

 

แล้ว Covid-19 กับ sharing economy มันเกี่ยวกันยังไง?

ต้องบอกว่าพอโลกเจอกับสถานการณ์ Covid19 ในช่วง 2 quarter ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายไปบ้างแล้ว แต่การคิดจะเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศก็ก็เลิกคิดกันไปก่อนได้เลย เราคงเห็นได้จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่กับธุรกิจการท่องเที่ยวและสายการบินของเรากันดีอยู่แล้วถูกไหมครับ

แต่ประเด็นที่อยากจะชวนคิดต่อก็คือ หลังจากเราเจอสถานการณ์ COVID กันมาเนี่ย ทุกคนยังมีความรู้สึกว่า เรายังสามารถ share การใช้สิ่งต่างๆกับคนอื่นได้อย่างสบายใจอยู่ไหม เราจะเชื่อมั่นคนอื่นที่มี share ของใช้กับเราได้จริงๆใช่ไหม ผมว่าเรากังวลกันมากขึ้นแน่ๆ 

ซึ่งการที่ผู้บริโภคกังวลเรื่องนี้มากขึ้น อาจไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเลิกใช้มันทั้งหมดนะ แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ เจ้าของ platform จะมีมาตรการอย่างไร เพื่อจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานได้ว่า เรื่องพวกนี้คุณไม่ต้องกังวล

ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคให้มากขึ้น นำมาสู่ cost ที่สูงขึ้นตามไปอีกทอดหนึ่งด้วย แล้วในสถานการณ์แบบนี้ที่ sharing economy มีปัญหา ทำให้รายได้หายไปมหาศาลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตัวผู้บริหารองค์กรจะรับมือ แก้ไขปัญหาเรื่องพวกนี้ยังไง VC จะยังเชื่อใจ และยอมรับการสูญเสียรายได้มหาศาลจากการลงทุนในรูปแบบธุรกิจแบบนี้อยู่หรือไม่ นี่คงเป็นเรื่องที่พวกเราต้องคอยติดตามกันต่อไปดูครับ

 

#เธมส์thinkต่าง #2050podcast 

Source:

https://www.youtube.com/watch?v=ffcPg6GHLso – Bloomburg youtube vdo

https://telecoms.com/504717/can-the-sharing-economy-survive-covid-19/

Image credit: https://fortune.com/2019/07/25/term-sheet-thursday-july-25/